วิลเลี่ยน ตัวรุกจอมเก๋าของ ฟูแล่ม เปิดเปิดเผยสาเหตุที่เขาตัดสินใจเลิกสัญญากับ อาร์เซน่อล
ว่าเป็นเพราะเหตุว่าการต้องลงเล่นแบบไม่มีแฟนบอลในสนาม ทำให้เขาขาดกำลังใจ
เมื่อปี 2020 หลังจาก วิลเลี่ยน หมดสัญญากับ เชลซี ก็ย้ายร่วมทัพ “ปืนใหญ่”แบบไม่มีค่าตัว แต่แข้งชาวบราซิลอยู่เล่นในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้เพียงแค่ปีเดียว ก็ตกลงเลิกสัญญา
วิลเลี่ยน กลับบ้านเกิดไปเล่นที่ โครินเธียส ได้อีกหนึ่งปี ก่อนจะย้ายกลับลอนดอนร่วมทีมน้องใหม่ใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง ฟูแล่ม
นักฟุตบอลวัย 34 ปี ให้สัมภาษณ์กับ ดิ แอธเลติก เล่าย้อนความถึงสาเหตุที่ทำให้เขาอำลา อาร์เซน่อล
“ผมมีความรู้สึกว่าผมอาจจะเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ขอเลิกสัญญาก่อนที่จะครบกำหนด, ถ้าหากเป็นผู้เล่นคนอื่นเจอสถานการณ์แบบผม, เขาคงจะอยู่กระทั่งครบสัญญาและรับค่าตอบแทนต่อไป”
“แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น, เงินไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก, ผมต้องการรู้สึกดีและมีกำลังใจฝึกฝน, ผมไม่มีสิ่งเหล่านี้ที่ อาร์เซน่อล ดังนั้นผมจึงตัดสินใจบอกลาทีม”
“ตลอดโดยมากของฤดูกาลที่ผมอยู่กับ อาร์เซน่อล, พวกเราต้องลงเล่นโดยไม่มีแฟนบอล, ผมไม่เคยได้เห็นแฟนบอล อาร์เซน่อล”
“บางทีผมอาจต้องการได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอล, นั่นเป็นสิ่งที่ผมพลาดไป”
“เป็นช่วงเวลาที่ยาก, ไม่ใช่แค่สำหรับผมแต่สำหรับทุกคนบนโลก, การต้องเล่นแบบไม่มีแฟนบอล หลังจากพึ่งจะย้ายเข้ามาร่วมสโมสรใหม่, นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
ฤดูกาล 2020-21 วิลเลี่ยน ลงเล่นให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไปทั้งหมด 37 นัด ยิงได้แค่ประตูเดียว และ อาร์เซน่อล ทำผลงานน่าผิดหวังจบอันดับ 8
ทั้งนี้ ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลดังกล่าว ต้องลงเล่นเกมโดยมากแบบไม่มีผู้ชม เพราะว่าปัญหาโควิด-19