คุณพ่อของ “เทนนิส” พานิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดดีกรีแชมป์โอลิมปิก ออกมาชี้แจง หลังลูกสาวเลือกลงแข่งขันใน กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
กลายเป็นประเด็นดราม่า ไปแล้วสำหรับ น้องเทนนิส หลังจากที่เจ้าตัวเลือกที่จะลงทำการ แข่งขันเทควันโดในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 “ดอกจานบ้านเชียงเกมส์” ที่จังหวัดอุดรธานี ในนามตัวแทนของ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมทั้งคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
หลังจากนั้นก็มีแฟนกีฬาบางส่วนตั้งคำถามถึงความเหมาะสมที่ นักกีฬาทีมชาติ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเหรียญทองกีฬาโอลิมปิกครั้งล่าสุด เลือกที่จะลงสนามในกีฬาระดับประเทศ
ล่าสุด นายสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ คุณพ่อของนักเทควันโดสาววัย 25 ปี ได้ออกมาโพสต์อธิบายผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นดังกล่าวเอาไว้ว่า
“มีแฟนคลับบางท่านถามมาว่า เพราะอะไรน้องเทนนิส ได้แชมป์โอลิมปิก ได้แชมป์โลก แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ แชมป์แกรนด์สแลม ได้แชมป์มาทั่วทุกมุมโลกแล้ว เพราะอะไรมาลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย น่าจะให้นักกีฬาคนอื่นๆได้แชมป์บ้าง การแข่งขันภายในประเทศ น้องเทนนิส ไม่เคยลงแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยรวมทั้งกีฬาแห่งชาติ มานานหลายปีแล้ว เหตุผลที่ทำไมน้องเทนนิส มาลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย มีดังนี้”
“1.เพื่อทดแทนบุญคุณ ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ตามข้อตกลงจะต้องลงแข่งขัน ในนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ให้ทุนเรียนปริญญาโท-เรียนปริญญาเอก”
“2.เพื่อจะได้สิทธิ์ ในการไปแข่งขันกีฬา มหาวิทยาลัยโลก ที่เมืองเฉินตู ประเทศจีน วันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2566 ซึ่งจะต้องลงแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย แห่งประเทศไทยก่อน ชนะแล้ว ก็เลยจะได้สิทธิ์ไปแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยโลก เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย”
“3.ทีมโค้ชพิจารณา อนุญาตให้สามารถลงแข่งขัน ได้ตามความเหมาะสม ใน 1 ปี จะลงแข่งขันได้ประมาณ 7-8 รายการ จากอีกทั้งหมด 14-15 รายการ”
“ขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งมาให้น้องเทนนิสมาก ๆ ครับ”

ประวัติ “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทอง โอลิมปิก 2020
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ : พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ชื่อเล่น : เทนนิส
เกิด : 8 สิงหาคม 2540
อายุ : 24 ปี
ภูมิลำเนา : จ. สุราษฏร์ธานี
ส่วนสูง : 173 เซนติเมตร
พาณิภัค เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา โดยคุณพ่อเป็นอดีตนักกีฬาทั้งยังฟุตบอลรวมทั้ง ว่ายน้ำ ส่วนคุณแม่เป็นอดีตนักว่ายน้ำ ทำให้ผู้สืบสกุลของครอบครัวนี้อีกทั้ง 3 คนมีชื่อเล่นเป็นชนิดกีฬาทั้งหมด ได้แก่ พี่สาวคนโต “โบว์ลิ่ง” นาวาอากาศโทหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ พี่ชายคนกลาง “เบสบอล” ศราวิน วงศ์พัฒนกิจ รวมทั้งน้องสาวคนสุดท้อง “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
พาณิภัค เริ่มเล่นเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยได้แรงบันดาลใจจากพี่ชายคนกลาง ก่อนที่ พาณิภัค จะค่อย ๆ พัฒนาความสามารถจนถึงได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ด้วยวัยเพียง 13 ปีเท่านั้น แถมยังคว้าเหรียญทองในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 42 กิโลกรัม ได้อีกด้วย ทำให้สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยเห็นแวว และก็เรียกตัวเข้ามาคัดเลือกตัวเข้าสู่การเป็นนักเทควันโดเยาวชนทีมชาติในเวลาต่อมา
ในระดับเยาวชน พาณิภัคทำผลงานได้อย่างเด่น โดยกวาดแชมป์ระดับนานาชาติ มาครองได้นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ยูเอส โอเพ่น, แชมป์โคเรีย โอเพ่น, แชมป์เอเชีย แถมยังเป็นผู้เล่นเยาวชนที่ได้ไปประชันฝีมือกับนักกีฬารุ่นใหญ่ในศึกซีเกมส์ 2013 ที่เนปิดอว์ ประเทศเมียนมา ซึ่งเธอก็สามารถคว้าเหรียญเงินได้ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น
นอกนั้น พาณิภัค ยังมีผลงานชิ้นโบแดง ระดับเยาวชนคือ เหรียญเงินเอเชียน ยูธ เกมส์ 2013 รุ่นไม่เกิน 47 กก. หญิง ก่อนจะสร้างชื่อกระหึ่มคว้าเหรียญทอง ยูธ โอลิมปิก 2014 ที่หนานจิง ประเทศจีน ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 44 กิโลกรัม
จากนั้นด้วยวัยรวมทั้งความเก่งกาจที่มากขึ้น พาณิภัค ก้าวขึ้นมาแข่งขันในรุ่นประชาชนอย่างสุดกำลัง รวมทั้งยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างตลอด เรียกได้ว่ากวาดแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆมาแล้วเกือบจะทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เอเชีย (2014,2016) เหรียญทองซีเกมส์ (2017,2019) เหรียญทองเอเชียน เกมส์ (2018) เหรียญทองกีฬามหาวิทยาลัยโลก (2017,2019) และก็ที่สำคัญคือตำแหน่ง “แชมป์โลก” 2 สมัย คือรุ่น 46 กก. ในปี 2015 และก็รุ่น 49 กก. ในปี 2019
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสำคัญที่ พาณิภัค กำลังไล่ล่าและต้องการทำให้สำเร็จให้ได้นั่นคือ “เหรียญทองโอลิมปิก” ซึ่งเป็นแชมป์เดียวที่เธอยังไม่เคยได้สัมผัส โดยก่อนหน้านี้ พาณิภัค เคยผ่านเวทีโอลิมปิกมาแล้วในปี 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเธอพลาดโอกาสเข้าไปลุ้นเหรียญทองอย่างน่าเสียดาย

ในศึกโอลิมปิก 2016 รอบ 8 คนสุดท้ายรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก.
พาณิภัค ทะลุเข้ามาเจอกับ คิมโซฮุย จากเกาหลีใต้ ซึ่งจอมเตะสาวไทยทำคะแนนนำอยู่ที่ 4-2 ในขณะที่เหลือเวลาอีกแค่ 4 วินาทีของยกสุดท้าย แต่กลับพลาดโดน คิมโซฮุย เตะเข้าหัวและก็พลิกเอาชนะไปได้อย่างน่าเจ็บใจ 6-5
อย่างไรก็ตาม “น้องเทนนิส” ยังพอมีโชคอยู่บ้างเมื่อ คิมโซฮุย ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เธอได้กลับมาแข่งต่อในรอบแก้ตัว ก่อนจะเตะเอาชนะ จูลิสซา ดิเอซ (ประเทศเปรู) และก็ อิตเซล มานจาร์เรซ (เม็กซิโก) คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2016 มาครองได้สำเร็จ
สำหรับ “เหรียญทองแดงโอลิมปิก” นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แล้วก็ พาณิภัค มั่นใจว่าเธอสามารถไปได้ไกลกว่านั้น ทำให้คุณยังคงมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่และไม่หยุดยั้ง เพื่อที่จะกลับมาแก้ตัวอีกครั้งใน โอลิมปิก 2020 “โตเกียว เกมส์” ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง พาณิภัค ถูกยกให้เป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทยที่จะกระชากเหรียญทองมาครองในโอลิมปิกครั้งนี้
และในที่สุด น้องเทนนิสก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง โดยสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2020 มาครองได้สำเร็จ หลังจากเตะเอาชนะ อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส ดาวรุ่งจากประเทศสเปน อย่างระทึกใจในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 11-10 คะแนน สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกให้กับวงการเทควันโดไทยได้สำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นนักเทควันโดเบอร์หนึ่งของโลกในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เกร็ดนอกสังเวียน
พาณิภัค จบการศึกษาระดับชั้นประถม จากโรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี จบม.ต้นจากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จบม.ปลายจากโรงเรียนเทพลีลา กรุงเทพมหานคร และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
เดี๋ยวนี้ “เทนนิส” รับราชการ ยศเรืออากาศตรีหญิง ตำแหน่งนายทหารกีฬาสโมสรแล้วก็กิจกรรมพิเศษ แผนกกีฬาสโมสรรวมทั้งกิจกรรมพิเศษ กองการสโมสร กรมสวัสดิการทหารอากาศ สังกัดกองทัพอากาศ นอกจากนี้ ยังมีแชนแนลยูทูบของตนในชื่อ PaNisPak Channel พานิสพัก ให้แฟนๆได้ติดตามกันอีกด้วย